ทำความรู้จัก AAR กับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
AAR หรือ After Action Review คือกระบวนการทบทวนหลังการปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของการดำเนินกิจกรรมหรือโครงการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสกัดบทเรียนจากทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวของการปฏิบัติงาน เพื่อนำข้อมูลและข้อคิดเห็นที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงและพัฒนาแนวทางการทำงานในอนาคต กระบวนการ AAR เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์สิ่งที่ทำได้ดี สิ่งที่ควรปรับปรุง และแนวทางในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาองค์กรและเพิ่มคุณภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง
ความเป็นมาของ After Action Review (AAR)
After Action Review (AAR) มีต้นกำเนิดจากการปฏิบัติการของกองทัพสหรัฐอเมริกา (US Army) โดยนายทหารยศต่ำสามารถตั้งคำถามกับนายทหารยศสูงได้ เพื่อส่งเสริม วัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างสมาชิกทุกระดับภายในหน่วยงาน กระบวนการนี้ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการอบรมเรื่อง ภาวะผู้นำ (Leadership Training) ในกองทัพสหรัฐอเมริกา
วัตถุประสงค์ของ AAR
• เพื่อสร้าง เวทีสำหรับรับผลสะท้อนกลับ ส่งเสริมการประเมินผลและความสามัคคีภายในหน่วยงาน
• เพื่อสร้าง วิธีการที่ชัดเจนในการส่งเสริมการเรียนรู้ ในชีวิตการทำงานประจำวัน
AAR จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ทีมงานสามารถวิเคราะห์ผลการปฏิบัติงาน สกัดบทเรียนจากความสำเร็จและความผิดพลาด และนำไปปรับปรุงการทำงานในอนาคตอย่างต่อเนื่อง
กระบวนการดำเนินงาน AAR ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก
1. เราวางแผนไว้ว่าจะทำอะไร – ทบทวนแผนการเขียน SAR เป้าหมาย และวิธีการดำเนินงานในรอบที่ผ่านมา
2. เราได้ทำอะไรไปแล้ว – รวบรวมผลการดำเนินงานจริง ปัญหา และประสบการณ์จากผู้จัดทำ
3. อะไรที่เราทำได้ดี – ระบุจุดแข็งหรือแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Good Practice) ที่ควรรักษาไว้
4. อะไรที่ควรปรับปรุง และจะปรับปรุงอย่างไร – วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาและเสนอแนวทางพัฒนาในอนาคต
ประโยชน์ของการทำ AAR
After Action Review ช่วยให้สามารถ ระบุความรู้หรือประสบการณ์ที่สำคัญ (Tacit Knowledge) ได้อย่างชัดเจนในช่วงเวลาที่โครงการหรือกิจกรรมกำลังดำเนินไป กระบวนการนี้ทำให้ทีมงานสามารถ จับเก็บ (capture) ความรู้เหล่านั้น ก่อนที่สมาชิกทีมจะแยกย้ายกันไป หรือก่อนที่ประสบการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเลือนหายไปเมื่อสมาชิกเปลี่ยนไปทำงานอื่น AAR จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาและถ่ายทอดความรู้เชิงลึกที่มักซ่อนอยู่ในความคิดและประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติงาน ช่วยให้ความรู้เหล่านี้สามารถนำไปใช้ปรับปรุงการทำงานในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะการทำ AAR ที่ดี
การทำ After Action Review ควรดำเนินใน บรรยากาศที่ไม่เป็นทางการ เพื่อให้สมาชิกทีมรู้สึกผ่อนคลายและกล้าแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา ทุกคนมี สิทธิเท่าเทียมกันในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยการประชุมควรเป็นไปอย่าง เปิดเผย ตรงไปตรงมา และเป็นกัลยาณมิตร กระบวนการ AAR ไม่ใช่การค้นหาผู้ทำผิดพลาดหรือกล่าวโทษใคร แต่เน้นไปที่การ วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาและหาวิธีแก้ไข เพื่อให้บทเรียนที่ได้สามารถนำไปพัฒนาการทำงานในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หัวใจและแนวคิดของ AAR
คือการ เรียนรู้จากสิ่งที่ทำได้ดีและความผิดพลาดอย่างทันท่วงที โดยนำบทเรียนเหล่านี้ไปปรับปรุงใน การปฏิบัติงานในอนาคต กระบวนการนี้ช่วยให้ประสบการณ์และความรู้เชิงลึกที่เกิดขึ้นในโครงการถูก จับเก็บและเผยแพร่ ให้แก่สมาชิกทีมทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ทำให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ร่วมกันและพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทรัพยากรที่ใช้ในกระบวนการ AAR
1. บุคลากร
• สมาชิกทุกคน ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหรือโครงการ ทั้ง ภายในและภายนอกองค์กร (ตามความเหมาะสม) จะเข้าร่วมการประชุม AAR
• คุณเอื้อ Facilitator หรือผู้ดำเนินการประชุม มีหน้าที่จัดการ กระตุ้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
• คุณลิขิต (Historian) ผู้ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลสำคัญ จากการอภิปราย
2. อุปกรณ์และเครื่องมือบันทึกข้อมูล
• สมุดบันทึก หรือเอกสารสำหรับจดข้อคิดเห็น
• โทรศัพท์สำหรับการติดต่อหรือบันทึกเสียง
• สื่ออื่น ๆ เช่น กระดานไวท์บอร์ด แผ่นฟลิปชาร์ต หรือคอมพิวเตอร์
3. สถานที่
• ห้องประชุมหรือพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดประชุม ให้สมาชิกทุกคนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อย่างสะดวก
**ขอขอบคุณข้อมูลจากการอบรม After Action Review (AAR) เพื่อการพัฒนาและยกระดับกระบวนการจัดการความรู้
โดย ดร.บุญดี บุญญากิจ และ พรทิพย์ กาญจนนิยต 22 กันยายน 2568 ณ อาคาร E-Park มหาวิทยาลัยแม่ฟ้หลวง จังหวัดเชียงราย